ผมว่าจุดอ่อนอย่างหนึ่งของ HR ในประเทศไทยคือ สนใจแต่ข่าวสารจาก whitepaper (หรือ เอกสารแจกฟรี) ของบริษัท Consult มากเกินไป จนบางทีอาจจะหลงลืมไปว่า โลกใบนี้ยังมีของฟรีดี ๆ อีกมากมาย เช่น TEDTALK
และนี่คือ 5 วิดีโอ ที่ผมคิดว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับวิชาชีพ HR ได้ครับ
1.) The Workforce Crisis of 2030 – and how to start solving it – by Rainer Strack
ความน่าสนใจของ TEDTALK นี้ ถ้าคนที่ทำงานในสาย Workforce Planning น่าจะเข้าใจดี ตอนนี้หากคุณลอง plot graph ประชากรในองค์กรของคุณ โดยใช้แกนนอนเป็นอายุ และแกนตั้งเป็นจำนวน และหากคุณเป็นบริษัทที่ก่อตั้งก่อนปี 2540 และยังอยู่มาถึงปัจจุบัน หรือโดนควบรวมกิจการในระหว่างนั้น คุณอาจจะเจอ gap ใน 5 ปีนั้นหลังต้มยำกุ้ง เนื่องจากบริษัทหลายแห่งถูกภาวะการแช่แข็ง หรือ ห้ามรับคนเพิ่มเพื่อลด fixed cost กราฟที่คุณทำออกมา จะมีสัดส่วนของ Gen Y / X ที่สูงมาก และในอีก 10 ปี จะเกิดภาวะที่องค์กรจะสูญเสียคนเก่งในระดับ Supervisor เยอะขึ้น
อันนั้นคือมองในแง่ของ “จำนวน” นะครับ Rainer Strack บอกเราต่อว่า ถ้าเราลอง plot graph ให้ยาวขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงปี 2030 เราจะเจอภาวะขาดแคลนแรงงาน โดยมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณคนเกิดลดลง หรือการเข้ามาของระบบ automation / robotics / AI เป็นต้น แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งคือ “ทักษะ” หรือ “ความสามารถ” สิ่งที่น่าสังเกตไม่ใช่การตั้งคำถามว่า “คนเราจะเก่งเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิมไหม” แต่เป็น “คนเราจะ match skill กับงานใหม่ในอนาคตได้หรือไม่” มากกว่า
นอกจากนี้ Rainer Strack ยังทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า ถ้าลองทำแบบสำรวจว่า 200,000 คนที่เป็น Job Seekers ในอนาคต กำลังมองหาอะไรที่เป็นแรงจูงใจอยู่ น่าแปลกที่ “เงินเดือน” หล่นไปอยู่อันดับรั้งท้าย แต่ในขณะเดียวกัน “การได้รับคำขอบคุณในการทำงาน” กลับขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง (ลองดูใน Clip นะครับ) ซึ่งผมว่าผมจะเขียนถึงเรื่องนี้เหมือนกันว่า Employee Work Passion นั้น เกินกว่า Employee Engagement แล้ว
2.) Why the best hire might not have the perfect resume – by Regina Hartley
น่าสนใจตรงบริบทนี้ปรากฏอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นกัน ถ้าบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดในประเทศไทยจะไม่ใช่เรื่องแปลก
งาน recruitment โดยปกตินั้น เริ่มต้นกระบวนการจาก resume screening ทั้งนั้น เรียกได้ว่า recruiter วัน ๆ นั่งทำแค่แสกนใบสมัครก็ใช้เวลาเยอะมากแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ recruiter ส่วนใหญ่มักทำคือ ตั้งเงื่อนไขในการหาใบสมัคร “ที่ดี” ไว้ก่อน แน่นอนว่าในสังคมทำงานในไทย ย่อมต้องมองหา เกรดเฉลี่ย สถาบัน การฝึกงาน ที่โดดเด่น แต่หากคุณได้มีโอกาสได้ดู clip ของ Regina เธอจะบอกเราว่า “ไม่จริง”
เธอแยกแยะให้เราเห็นก่อนว่า ด้วยสังคมปัจจุบันที่คนชอบมองหาความ perfect ของใบสมัคร ทุกคนจ้องที่จะหาเส้นวัดว่าอะไรในใบสมัครบอกว่าดี เช่น จบจากสถาบันการศึกษาชั้นนำ ฝึกงานในองค์กรที่ใหญ่ เป็นต้น แต่เธอก็บอกว่าด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ทุกคนที่ profile แบบนี้จะทำงานได้ดี แต่กลับเป็นคนที่ resume ดูไม่มีอะไร และค่อนข้างไปในทางแย่มากกว่า เช่น เป็นพนักงานเสิร์ฟ เธอเรียกคนแบบนี้ว่า “นักสู้”
แม้ผมอาจจะไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่เรื่องการแบ่งประเภทคน แต่เรื่องนี้ผมมั่นใจว่าจะต้องมี HR หลายๆ คนที่ไม่เคยคิดแบบเธอ ลองเปิดเข้าไปดูสักนิดเถอะครับ
3.) The puzzle of motivation – by Daniel Pink
นี่คือ must seen ที่สุดจาก 5 วิดีโอทั้งหมดที่ผม post ถึง Daniel Pink คือบุคคลที่ผมถือว่าเป็นบิดาแห่งวงการ HR คนใหม่ ต่อจาก Dave Ulrich
นี่จะเป็น clip เดียวที่ผมจะไม่บรรยายอะไรมาก และขอร้องให้คุณเปิดเข้าไปฟังด้วยตนเองครับ ผมว่านะ HR แบบเราน่าจะได้มุมมองอะไรเรื่อง engagement ใหม่ๆ เยอะเลยล่ะ
4.) How great leader inspire action – by Simon Sinek
ผลงานขึ้นหิ้งอีกชิ้นที่ถ้า HRD หรือ OD ไม่เคยดูมาก่อน คุณควรจะหยุดและหาเวลา 17 นาทีเพื่อมาดูสิ่งนี้
ก่อนที่คุณจะไปทำสิ่งที่เรียกว่า change management หรือ ก่อนที่คุณจะเอื้อเอ่ยวจีสุดพริ้งพร้าวว่า intervention โน่นนั่นนี่
คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ทำไมโลกใบนี้ มันถึงถูกขับเคลื่อนด้วยความเชื่อ และทำไมคนถึงทำตาม passion อย่างไม่หยุดหย่อน
5.) The way we think about work is broker – Barry Schwartz
ผมขอปิดท้าย series นี้ด้วย clip video ของคุณลุง Barry
หากคุณไม่ชอบอะไรที่ลึกมาก หรือปรัชญามาก ๆ หรือคุณเกลียดการมองระบบการบริหารงานบุคคลที่เป็นอภิปรัชญา ผมแนะนำให้ข้ามไปเลย แต่ถ้าคุณอยากเปิดโลกเรียนรู้แนวความคิดแบบตะวันตกสุดขั้ว เช่นว่า ทำไม อดัม สมิธ ถึงบอกว่าเราควร mass production และ incentive คนด้วยเงิน คุณควรจะลองเปิดดูครับ